แหล่งท่องเที่ยวในอำเภอจุน
- โบราณสถานเวียงลอ
- เมืองเวียงลอ เป็นเมืองหน้าด่านของอาณาจักรพะเยาโบราณที่มีอายุมากกว่า 900 ปีมาแล้ว และเคยเข้าร่วมในทัพของขุนเจือง วีรบุรุษแห่งลุ่มแม่น้ำโขงในการรบกับอาณาจักรต่าง ๆ ต่อมาในสมัยล้านนา กลายเป็นดินแดนกันชนของล้านนาและสุโขทัย ดังนั้นรูปทรงของวัดวาอารามที่เมืองเวียงลอแห่งนี้ จึงมีลักษณะร่วมของศิลปะ 2 อาณาจักร ต่อมาเมื่ออาณาจักรล้านนาตกเป็นของพม่า เมืองเวียงลอจึงได้กลายเป็นแหล่งซ่องสุมไพร่พลของพม่า จนกระทั่ง พ.ศ. 2322 จึงถูกพระเจ้ากาวิละกวาดต้อนไปและตั้งมั่นขึ้นใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยชาวเมืองน่าน แพร่ และพะเยา
- เมืองโบราณเวียงลอ ตั้งอยู่ในแอ่งที่ราบจุน – เทิง ซึ่งเป็นแอ่งที่ราบระหว่างหุบเขา ที่วางตัวในแนวทิศเหนือ – ทิศใต้ โดยมีดอยภูนางซึ่งมีความสูงถึง 1,202 เมตร จากระดับน้ำทะเลปานกลางเป็นขอบแอ่งทางด้านทิศใต้และทอดตัวต่อเนื่องขึ้นทาง ทิศเหนือซึ่งมีดอยแม่ฮิ ดอยขุนแม่เลอะ ดอยกิ่วช้าง ดอยกิ่วแก้ว เป็นขอบแอ่งด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ถัดจากดอยกิ่วแก้ว ไปทางทิศเหนือเป็นที่ลุ่มแคบๆ มีแม่น้ำอิงไหลผ่านกั้นระหว่างขอบแอ่งด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้และขอบแอ่งด้าน ทิศตะวันตก
- โบราณสถานเวียงลอ อยู่ห่างอำเภอจุน จ.พะเยา ไปตามทางหลวงหมายเลข 1021 ถึงบ้านห้วยงิ้ว ประมาณ 17 กิโลเมตร มีทางแยกเป็นทางเดินถึงบ้านน้ำจุนอีกประมาณ 12 กิโลเมตร นักโบราณคดีสันนิษฐานว่าคงเป็นเมืองในสมัยพ่อขุนงำเมือง เพราะปรากฎซากกำแพงเมืองเก่า วัดร้างอยู่มากมาย พระธาตุและวัดเก่าแก่คือ วัดศรีปิงเมือง และใกล้เวียงลอนี้ยังเป็นจุดที่ลำน้ำจุนไหลลงแม่น้ำอิงด้วย จึงเรียกบริเวณนี้ว่า "สบอิง"
- วัดพระธาตุขิงแกง
ขอบคุณวีดีโอจาก https://www.youtube.com/watch?v=1RYR9dqH-WA
วัดพระธาตุขิงแกง เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญของอำเภอจุน จังหวัดพะเยา โดยวัดอยู่ห่างจากตัวอำเภอ จุน ไปประมาณ 8 กิโลเมตร ตั้งอยู่บนทางหลวงหมายเลข 1091 จุน-ปง ก่อนถึงโรงเรียนบ้านธาตุขิง พบทางแยกเข้าวัดทางขวา ให้เลี้ยวเข้าไปประมาณ 200 เมตร วัดอยู่ทางซ้ายมือ ตั้งอยู่บนเนินเขา มีเนื้อที่กว้าง บรรยากาศสงบร่มรื่น
วัดพระธาตุขิงแกง เป็นวัดสำคัญในอำเภอ เป็นวัดที่อยู่บนเนินสูง พระธาตุขิงแกงเป็นศิลปะแบบล้านนา ประชาชนให้ความเคารพสักการะ และมีประเพณีต่าง ๆ ตามแบบชาวบ้าน เช่น ประเพณีทานสลากภัตร , ประเพณีสรงน้ำพระธาตุขิงแกง (ประเพณีเดือน 7 เป็ง) ซึ่งพระธาตุขิงแกงนั้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
วัดพระธาตุขิงแกง เป็นวัดสำคัญในอำเภอ เป็นวัดที่อยู่บนเนินสูง พระธาตุขิงแกงเป็นศิลปะแบบล้านนา ประชาชนให้ความเคารพสักการะ และมีประเพณีต่าง ๆ ตามแบบชาวบ้าน เช่น ประเพณีทานสลากภัตร , ประเพณีสรงน้ำพระธาตุขิงแกง (ประเพณีเดือน 7 เป็ง) ซึ่งพระธาตุขิงแกงนั้นบรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า
"ตำนานวัดพระธาตุขิงแกง"
ตำนานวัดพระธาตุขิงแกง มีประวัติโดยสังเขป โดยคัดมาจากพระธรรมตำนานของพระธาตุขิงแกง มีดังนี้ ที่นี้จะกล่าวถึงตำนานพระธาตุเจ้า ปางเมื่อพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ในเชตวันอาราม เมืองสาวัตถีเมื่อพระพุทธเจ้าตรัวรู้สัพพัญญูได้ 15 พรรษา ในค่ำคืนหนึ่งพระพุทธองค์ทรงบรรทมในคันธกุฏิ ในพระเชตวัน เวลาใกล้รุ่งทรงดำริว่าบัดนี้เราก็มีอายุได้ 60 ปีแล้ว แล้วเมื่ออายุ 80 ปี ก็จักปรินิพพานและควรที่เราจะอธิษฐานธาตุให้ย่อยเป็น 3 ประการ ให้คนและเทวดาแจกไว้เป็นที่บูชา เสมือนแทนตัวเราเมื่อยังอยู่นี้เถอะเหล่าพุทธอายุน้อยนักสัตว์ทั้งหลายอัน ล่วงแล้ว แต่ก่อนได้อธิษฐานธาตุให้ย่อยแล้วได้ไปไว้ตั้งยังสถานที่ใดเราก็จักทำนายยัง สถานที่นั้นแหละ พระพุทธองค์ทรงดำริว่าเราควรจะไปโปรดสรรสัตว์ทั้งหลายและตั้งศาสนาไว้ใน มัชฌิมประเทศ กับปัจจัยประเทศและเมื่อนั้นพระพุทธองค์ผู้ประกอบด้วยพระมหากรุณาธิคุณหลัง ออกพรรษาแล้ว พระองค์พร้อมด้วยอรหันต์ทั้งหลายมีพระโสณเถระ พระรัตนเถระ และพระอานันท์เถระ เป็นต้นเป็นบริวาร มีพระอินทร์เป็นผู้กางฉัตร ตามเสด็จพระพุทธองค์และยังมีพระเจ้าอโศก เจ้าเมืองกุสินารายญ์ ถือรองเท้าทิพย์ และไม้เท้าเสด็จตามอุปฐากพระพุทธองค์ เสด็จออกจาป่าเชตวันมาตามลำดับในวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย พระพุทธเจ้าก็เสด็จออกจากเมืองสาวัตถีมาโดยลำดับมาสู่นับพรมรับข้าวบิณฑบาตร แม่ครัวแล้ว พระองค์ก็เลียบขึ้นมาตามฝั่งแม่น้ำระมิงค์(ปิง) เสด็จถึงที่นั้นประทานพระเกษาธาตุ แล้วก็เสด็จมาถึงดอยสุเทพ มาสู่บุปผาราม ฝาง เชียงดาว แล้วไปตับเต่าถึงสบฝาง ฉันข้าวข้างแม่น้ำ และเลียบฝั่งแม่น้ำเสด็จขึ้นไปแสนหวีถึงวิเทหนครอยู่จำพรรษาที่นั้น เทศนาเนมิราช สุทินราชและนาราถจปัณณะ หลังจากออกพรรษาแล้วก็เสด็จมาเมืองลือ ประทานพระเกษาธาตุเมืองสิงหะแล้วเสด็จมาประทานพระเกษาธาตุที่จอมทองแล้วมา เมืองพยาด มาเมืองเชียงแสนเสด็จไปดอยตุง แล้วไปภูเขาปูแก้ว และไปจอมกิตติไปสบจันผา ประทับรอยพระบาทที่นั่น และแล้วพระองค์ก็ยืนห่มจีวรแล้วไปประทับนอนอยู่เหนือก้อนหินก้อนหนึ่ง จากนั้นก็เสด็จไปยอดดอยแห่งนั้น และตรวจดูสัตว์โลกทั้งหลายจึงเสด็จไปสันทรายประทับรอยพระบาทที่นั่นจึงเสด็จ มาหัวด้วน ทรงเหยียบพระบาทให้ยักษ์อุปฐาก จึงเสด็จไปจอมแว่ดูปงปู่เต้า และเมืองพะเยา ยังมียักษ์ตนหนึ่งมันไม่ไดกินอาหารมานานเจ็ดวันแล้ว พบเห็นพระพุทธเจ้ามันหมายจะจับกินแต่ไล่พระองค์ไม่ทันไล่จนหมดแรง ที่นั้นพระพุทธเจ้าก็เอาฝ่าเท้าเหยียบก้อนหินก้อนหนึ่ง พอยักษ์เห็นรอยเท้าพระพุทธองค์แล้วมันก็กล่าวว่า ” ชายผู้นี้มีเรี่ยวแรงนักหนอ เหยียบจนยุบเป็นรอยเหตุนี้เราจึงกินมันไม่ได้” และแล้วพระพุทธองค์ก็ปรากฏให้ยักษ์เห็นพระองค์
วัดกู่ไก่แก้ว อยู่ทางทิศใต้ของตำบลห้วยข้าวก่ำ จังหวัดพะเยา บริเวณพื้นที่ของวัดตั้งอยู่บนภูเขาและติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยข้าวก่ำ สถานที่ภายในวัดที่สำคัญ ได้แก่ พระธาตุเจดีย์กู่ไก่แก้ว ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยที่มีวิวสามารถมองเห็นตัวเมืองของอำเภอจุนได้สวยงาม เป็นวัดที่มีชื่อเสียงทางด้านการปฏิบัติกรรมฐานของผู้คนในท้องถิ่นมีเจ้าอาวาส ชื่อ ครูบาอ๋อง สุธมโม
การเดินทางสามารถใช้รถยนต์ไปตามถนนพะเยา-จุน พอถึงตลาดอำเภอจุนแล้วแยกขวามือไปทางถนนทางโรงเรียนอนุบาลบัวสถานขับไปอีกประมาณไม่เกิน 3 กม. จะเจอป้ายหน้าวัดทางด้านซ้ายมือบนเชิงดอยห้วยข้าวก่ำก็จะถึงบริเวณวัด
อ้างอิงจาก : http://www.sadoodta.com/info/%E0%B9%82%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%93%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A7%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B8%AD-%E0%B8%9E%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%B2
https://sites.google.com/site/travelinthenorth/phayao/boran-sthan-weing-lo
http://www.sadoodta.com/info/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87
https://jakkrit1992.wordpress.com/2012/08/14/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E/
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7
https://sites.google.com/site/travelinthenorth/phayao/boran-sthan-weing-lo
http://www.sadoodta.com/info/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%98%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B8%82%E0%B8%B4%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%87
https://jakkrit1992.wordpress.com/2012/08/14/%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%9E/
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%84%E0%B8%81%E0%B9%88%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%A7
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น